สถาบันกษัตริย์กับการค้ายาเสพติด
บทความโดย พิษณุ พรหมสร Anti
เผยแพร่ครั้งแรก 30 กรกฎาคม 2557
ในชื่อหัวข้อ ”เส้นทางยาเสพติดของลุงสมชาย”
แก้ไขอัพเดทเพิ่มเติมครั้งที่1....
12 กันยายน 2560 ในชื่อหัวข้อ
“สถาบันกษัตริย์กับการค้ายาเสพติด”
ตอนที่ 7
ยาเสพติด ขบวนการมาลีปา เส้นทางที่ 2 ยึดพื้นที่ดอยอ่างขาง
ยาเสพติดเส้นทางนี้ เป็นของครอบครัวกษัตริย์ภูมิพล
ยึดพื้นที่ดอยอ่างขางทำโครงการหลวง เพื่อให้เป็นทางผ่านยาเสพติด
ฝิ่นดิบและเฮโรอีนจากกลุ่มโกกั้งในเส้นทางนี้ เข้ามาทาง “ดอยอ่างขาง” กษัตริย์ภูมิพล จะให้ม.จ.ภีศเดช รัชนี ซึ่งเป็นพระสหายสนิทมาตั้งแต่ยังเป็นเด็ก ซึ่งเป็นประธานมูลนิธิโครงการหลวง และเป็นผู้อำนวยการดูแล โครงการหลวงสงเคราะห์ชาวเขา เป็นผู้ดูแลยาเสพติดในเส้นทางสายนี้
มจ.ภัศเดช รัชนี |
การค้ายาเสพติดคือพระราชกรณีย์กิจของครอบครัวมหิดล
ยาเสพติดในเส้นทางนี้ ได้ถูกส่งออกต่างประเทศ โดยคนในครอบครัวของกษัตริย์ภูมิพล ด้วยการใช้พระราชกรณีย์กิจต่างๆในการเดินทางไปต่างประเทศมาเป็นข้ออ้างบังหน้า และการส่งออกของครอบครัวกษัตริย์ไทย ก็จะทำได้ง่าย เพราะจะได้รับเอกสิทธิ์ ไม่ต้องถูกตรวจค้นอย่างละเอียด ที่สนามบินในต่างประเทศ
พระราชกรณีย์กิจผิดพลาด ที่สนามบินฮีทโธรว์ ในกรุงลอนดอน
สนามบินฮีทโธรว์ ในลอนดอน |
หม่อมสุจาริณีกับลูก |
เครื่องทองเหลืองยัดใส้ยาเสพติด |
พลาดเพราะสุนัขดมกลิ่น
แต่บังเอิญว่าในขณะนั้น มีสุนัขตำรวจตัวหนึ่งภายในบริเวณสนามบินที่ถูกฝึกมาให้ตรวจดมยาเสพติด ซึ่ง ตำรวจผู้ดูแล ได้แวะพักเข้าไปกินกาแฟในคาร์บิ้น และผูกไว้ไม่แน่น สุนัขจึงได้หลุดเดินมายัง Termenal ภายในสนามบินที่มีตู้เก็บเครื่องทองเหลืองนี้ตั้งอยู่ และเจ้าหน้าที่กำลังเอาเครื่องทองเหลืองออกมาเพื่อเตรียบส่งมอบให้กับผู้มารับ พอสุนัขได้กลิ่นยาเสพติดก็เห่าและไม่ยอมไปไหน เพราะถูกฝึกมาอย่างนั้น จนเจ้าหน้าที่ต้องไปตามตำรวจผู้ดูแลสุนัข พอมาเจอ ก็รู้ว่าต้องมียาเสพติดแน่ จึงได้ประสานงานกับตำรวจหน่วยพิเศษสก๊อตแลนด์ยาร์ด ให้เข้ามาทำการตรวจสอบอย่างละเอียด ในที่สุดก็พบยาเสพติดบรรจุอยู่ในเครื่องทองเหลืองทุกใบ
สุนัขตำรวจ |
ถึงช่วงนี้ผู้เขียนก็ไม่มีรายละเอียดข้อมูลว่า
กษัตริย์ภูมิพลเอาผลประโยชน์อะไร? ไปต่อรองแลกเปลี่ยนกับ รัฐบาลอังกฤษ ผู้เขียนรู้แต่เพียงว่า
รัฐบาลไทย ได้สั่งให้ทูตไทยประจำกรุงลอนดอน มาเคลียร์กับทางรัฐบาล อังกฤษเพื่อขอให้ปกปิดข่าว
ต่อมาจึงรู้เพิ่มเติมว่าทางการอังกฤษได้จับตัว
คนที่ไปร่วมรับยาเสพติดกับหม่อมสุจาริณี ไว้หนึ่งคนซึ่งเป็นลูกสาวเจ้าของบริษัทไทยช๊อปเอาไว้
แต่ต่อมาได้ถูกทางการไทยขอให้ส่งตัวกลับมาเข้าเรือนจำในประเทศไทย
แต่มาอยู่ได้ไม่กี่วัน ก็มีรถของสำนักพระราชวังมารับตัวที่เรือนจำ
และหายไปจนกระทั่งทุกวันนี้ (คาดว่าถูกนำไปฆ่าปิดปาก)
และเรื่องที่มีการจับหม่อมสุจาริณีในลอนดอนนั้น
ทางรัฐบาลไทยปิดข่าวไม่อยู่ มีการซุบซิบนินทากันทั้งประเทศ ทำให้สถาบันกษัตริย์ไทย
ต้องออกมาแก้ข่าว โดยในปี 2539
สมเด็จพระบรมฯในขณะนั้น ได้ให้ทหาร ติดใบประกาศรอบพระ
ตำหนักนนทบุรี โดยกล่าวหาว่าสุจาริณีคบชู้กับพลอากาศเอกอนันต์ รอดสำคัญ
ทหารอากาศวัย 60 ปี ตามมาด้วยการถอดยศทหารอากาศคนดังกล่าว ด้วยข้อหาผิดวินัยและหลบหนีคดีอาญา
ส่วนสุจาริณีและลูกๆก็ถูกประกาศเนรเทศออกนอกประเทศไทย ทั้งถูกถอดจากฐานันดรศักดิ์ ขณะที่หม่อมเจ้าบุษย์น้ำเพชร
มหิดล ลูกสาวองค์เล็ก ได้กลับสู่ประเทศไทยโดยอยู่ในการดูแลของสมเด็จพระบรมฯ
มาจนทุกวันนี้
ออกใบปลิวเบี่ยงเบนเรื่องยาเสพติด |
อาศัยผลิตภัณฑ์สินค้าของบริษัทซูเลี่ยนและดอยคำยัดเฮโรอีนส่งออก
โสมซูเลี่ยน |
ต่อมาทูตไทยได้แจ้งไปยังรัฐบาล นายอภิสิทธิ์
นายกรัฐมนตรีในขณะนั้น จึงส่งนาย กษิต ภิรมย์ รมต.ต่างประเทศ
ให้รีบเดินทางไปฝรั่งเศส เพื่อไปแก้ตัวกับทางการฝรั่งเศสว่า
เป็นเพราะเด็กติดต้นขั้วกระเป๋าผิดใบ พร้อมทั้งก่อนเดินทางไปอภิสิทธิ์สั่งให้ทีมงานของเนวิน
ชิดชอบ ที่ดูแลการบินไทย จัดการแก้ไขทำลายหลักฐานในข้อมูลทั้งทางคอมพิวเตอร์และต้นฉบับพร้อมสำเนาผู้โดยสาร
ที่เกี่ยวกับกระเป๋าสัมภาระให้เรียบร้อย อย่าให้โยงถึงครอบครัวของภูมิพลเป็นอันขาด
โดยโยนความผิดไปให้ พนักงานลำเลียงกระเป๋าขึ้นเครื่อง
อ้างว่าต้นขั้วที่ติดกระเป๋าหลุด ก็เลยหยิบมาแปะ โดยไม่ได้ตรวจให้ดีก่อน
ซึ่งยาเสพติดในล๊อตที่ถูกจับได้นี้
เป็นล๊อตที่ใหญ่มาก และทางการฝรั่งเศสก็คงไม่เชื่อในคำตอแหลของคนในรัฐบาลไทย
ดังนั้นฝรั่งเศสจึงอนุญาตให้ประกันตัวกลับเมืองไทยได้เพียงสองคนคือโสมเสาวลีและนางขี้ข้า1คน แต่ผู้ติดตามโสมสวลีและทีมงานบริษัท
Zhulin ทั้ง 28 คน ยังติดคุกอยู่ในฝรั่งเศสจนกระทั่งบัดนี้
สายพานลำเลียงกระเป๋าผู้โดยสาร |
ในการประกันตัวตัวโสมสวลีกลับไทย และการปิดข่าวที่ฝรั่งเศสในครั้งนี้อีกเช่นกัน
คาดว่าทางราชสำนักไทยต้องนำผลประโยชน์อย่างใดอย่างหนึ่งไปแลกเปลี่ยนกับรัฐบาลฝรั่งเศษ
และนี่เป็นเพียงไม่กี่ครั้งเท่านั้น
ที่ลูกหลานกษัตริย์ภูมิพลถูกจับได้จนตกเป็นข่าว แต่คงมีอีกหลายครั้งที่ สามารถเล็ดรอดการตรวจค้นไปได้
ส่วนความเป็นมาของบริษัท Zhulin เป็นบริษัทขายตรง
ที่มีสาขาอยู่ทั่วโลก มีดร.ปิยะวัชร์ บุญยืนยงสกุล เป็นประธานบริษัท และมีโสมเสาวลีเป็นประธานที่ปรึกษา
โดยโสมสวลีมักไปเปิดงาน แจกโล่ มอบรางวัล
และทำกิจกรรมร่วมกับบริษัทนี้อยู่เป็นประจำ
สำหรับบริษัทนี้ มีข้อสังเกตว่าน่าจะเป็นบริษัทที่เป็น
“นอมินี” ให้กับสำนักงานทรัพย์สินส่วนกษัตริย์ เพราะบริษัท Zhulin เป็นบริษัทสัญชาติไต้หวัน ที่มีความเกี่ยวพันกับ ทหารกองพล 93 ที่มาค้ายาเสพติดอยู่ทางภาคเหนือของประเทศไทย โดยเป็นที่ทราบกันดีว่า
กองพล 93 มีความสัมพันธ์กับกษัตริย์ภูมิพลมาอย่างยาวนาน
ดร.ปิยะวัชร์ บุญยืนยงสกุล ประธานบริษัทซูเลี่ยน |
และยังเป็นที่น่าสงสัยอีกว่า ดร.ปิยะวัชร์
บุญยืนยงสกุล เป็นเพียงประธานบริษัทขายตรงธรรมดาคนหนึ่งเท่านั้น
แต่กลับได้รับยศตำแหน่งมากมายจากทางในวัง เช่น.-
รางวัล Hero of the year (2 ปีซ้อน) สาขานักบริหารและจัดการแห่งปี
สาขาบริษัทขายตรงแห่งปีจากฯพณฯพลเอกพิจิตร กุลวณิชย์ องคมนตรี พ.ศ.2543-2544
เครื่องราชอิสริยาภรณ์ เบญจมดิเรกคุณาภรณ์ ชั้นที่
๕ จากพระบาทสำเด็จพระเจ้าอยู่หัว เมื่อวันที่ 13 พฤษภาคม 2551
รางวัลองค์กรผู้ให้การสนับสนุนดีเด่น
สภากาชาดไทย ปีพ.ศ.2548,
พ.ศ.2549 และพ.ศ.2550 จากพระเจ้าวรวงค์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี
พระวรราชาทินัดามาตุ ในงานเทียนส่องใจเทิดไท้พ่อแห่งแผ่นดิน
รางวัล พระราชทานเทพทอง สำหรับองค์กรดีเด่น
โดยพระบาทสมเด็จประเจ้าอยู่หัว โปรดเกล้าให้ ฯพณฯ พลอากาศตรีกำธน สินธวานนท์
องคมนตรีผู้แทนพระองค์มอบรางวัลเมื่อวันที่ 15 สิงหาคม 2547
รางวัลนักบริหารดีเด่น สาขาบริหารและพัฒนาองค์กร
จาก ฯพณฯนายแพทย์เกษม วัฒนชัย องคมนตรี เมื่อวันที่ 29 กรกฎาคม 2545
รางวัลคนดีสังคมไทย สาขาบริหารจัดการ โดยท่านคุณหญิงบุญเรือน ชุณหวัณ เมื่อวันที่ 3 พฤษภาคม 2545 ซึ่งเป็นโล่ห์รางวัล มูลนิธิราชประชานุเคราะห์
จากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ
ด้วยข้อมูลที่ยกมากล่าวอ้างนี้
จึงทำให้น่าเชื่อได้ว่า เฮโรอีนที่ทางการฝรั่งเศสจับได้นั้น
เป็นเฮโรอีนในพระบรมราชูปถัมภ์ ที่อาศัยผลิตภัณฑ์ของบริษัท Zhulin ซึ่งเป็นบริษัทในเครือสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ส่งออก
นอกจากนี้ ในวันที่ 15
สิงหาคม 2557 ได้เกิดเรื่องอื้อฉาวขึ้นอีก
เมื่อสื่อสารมวลชนในประเทศไต้หวันได้ลง ข่าวการ
'จับเฮโรอีน ตราสิงโตเหยียบโลก' บรรจุในกล่อง
'ดอยคำ ของโครงการหลวง โดยบรรทุกไปกับสายการ บินไทย!!!
ภายหลังการสอบสวนพบว่ามีนาย Wu ชาวไต้หวัน เป็นคนส่งพัสดุจากประเทศไทยไปไต้หวัน โดยใช้สาย การบินไทย เที่ยวบิน TG636
โดยในพัสดุระบุให้ส่งถึงนาย Zheng ที่เป็นผู้รับของปลายทาง แต่ทางเจ้าหน้าที่ยาเสพติดของไต้หวันสามารถสืบทราบได้
จีงติดตาม “พัสดุ” ชิ้นนั้น จนกระทั่งถึงจุดหมายปลายทางที่ไต้หวัน ทำให้นาย Zheng ไหวตัวทันไปหลบซ่อนตัวอยู่ที่
Supermarket ในบริเวณใกล้สนามบิน แต่ภายหลังก็ถูกจับได้ โดยเฮโรอินที่จับได้ในวันนั้น มีน้ำหนัก 6.3
กิโลกรัม อยู่ในกล่องพัสดุ
ที่ใส่กล่อง “ดอยคำ”ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ของโครงการหลวง
ซึ่งในเรื่องนี้มีข้อน่าสังเกตว่า
ในเที่ยวบินเดียวกันนี้ คือ TG636 ปรากฏว่า มีนางขี้ข้า
ซึ่งเป็นข้าราชบริพาร
2 คน คือนางจรุงจิตต์ ทีขะระ และนางปิยาภัสร์ ภิรมย์ภักดี ได้เดินทางไปกับเที่ยวบินนี้ด้วย
พอเฮโรอีนถูกจับ ทั้ง2 นาง ก็รีบเดินทางกลับในวันเดียวกัน (คงขวัญอ่อนเลยรีบหนีกลับ)
ซึ่งทั้งหมดนี้
จึงเห็นได้ว่าเครือข่ายยาเสพติด ของสถาบันกษัตริย์ ได้พัฒนาขึ้นเป็นลำดับ โดยมีการปรับตัวให้เข้ากับยุคสมัย
จากที่เคยร่วมมือกับ แฟลงก์ ลูคัส ยัดเฮโรอีนใต้โลงศพทหารอเมริกัน มาสู่การยัดใส่ในสินค้าขายตรงที่มีสาขาอยู่ในหลายประเทศ
ซึ่งก็มีแต่วิธีนี้ที่สามารถนำเฮโรอีนไปขายในตลาดโลกได้
คณะผู้บริหารบริษัทซูเลี่ยนโดยมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ฯเข้าถ่ายรูปกับเจ้าของบริษัทซูเลี่ยนตัวจริง |
เฮโรอีนส่งออก Brand ดอยคำ |
2 นางขี้ข้า รีบหนีกลับ |
เมื่อคุณหญิงรู้ความจริง
และมีอยู่ครั้งหนึ่งมีคนในระดับคุณหญิง(ขอปกปิดชื่อ)ท่านหนึ่ง ได้เล่าให้ผู้เขียนฟังว่า ก่อนการรัฐประหารในปี 2549 ไม่นาน ท่านได้ไปรู้โดยมีหลักฐานบางอย่างว่า นายทหารผู้ติดตามสิรินธร ชื่อ พล.อ.คณิต เพิ่มทรัพย์ ซึ่งเป็นรองสมุหราชองครักษ์ และเป็นผู้ที่ติดตามสิรินธร ในการไปเยือนต่างประเทศทุกครั้ง เป็นนายพลที่ค้ายาเสพติด
พลเอก คณิต เพิ่มทรัพย์ (ยืนกลาง) นักค้าเฮโรอีนของ "สิรินธร" |
ต่อมาคุณหญิงจึงได้ทำหนังสือเปิดโปงนายพลทหารค้ายานี้
โดยร้องเรียนไปยังพลเอกเปรม ติณนสูลานนท์ โดยทำไปแต่ละฉบับหนังสือก็ถูกตีกลับหมด
จนต่อมา ท่านถูกทหารตามมาข่มขู่ถึงบ้าน และบอกว่าอย่ามายุ่งเรื่อง ยาเสพติดโดยเด็ดขาด
รวมทั้งคนที่มาขู่ยังกล่าวหาว่าท่านเป็นคนวิกลจริต
แต่ถึงกระนั้นคุณหญิงท่านนี้ก็ยังไม่หยุดดำเนินการ
ในปี 2549
ท่านได้ทำทุกวิถีทางจนหนังสือร้องเรียนฉบับนั้นไปถึงมือของนายกทักษิณ แต่นายกทักษิณก็ตอบกลับมาว่า เกินกำลังที่จะทำได้
จากนั้นไม่ถึงเดือน รัฐบาลของนายกทักษิณก็ถูกรัฐประหาร
พอมาถึงรัฐบาลของนายกสมัคร
สุนทรเวช คุณหญิงท่านนี้ก็มีโอกาสได้บอกกล่าวกับนายกสมัคร ด้วย ตนเอง นายกสมัครจึงเร่งให้เอาเอกสารหลักฐานมาให้
แต่เมื่อนายกสมัครได้เห็นเอกสารแล้ว ท่านถึงกับอึ้งไปเลย และไม่ได้พูดอะไรอีก
เมื่อมาถึงตรงนี้คุณหญิงจึงรู้ได้ว่า
สิรินธรต้องรู้เห็นเกี่ยวข้องกับการค้ายาเสพติดด้วยแน่ ทั้งที่ ก่อนหน้านั้น
คุณหญิงเชื่อมาโดยตลอดว่าสิรินธรไม่เกี่ยว จนทำให้คุณหญิงท่านนี้กลัวไม่กล้าเปิดเผยตัวในที่
สาธารณะและออกงานการกุศลอีกเลย
..มีต่อตอนที่ 8
ไร้สาระ
ตอบลบเอาเรื่องเท็จมาใส่ความกล่าวสถาบันฯแบบนี้จาบจ้วงไร้สาระเรื่องเท็จทั้งนั้นล่ะ
ตอบลบเปิดใจบ้าง อย่าดูแต่ละครหลอกลิง
ลบมีหลักฐานมากว่าการกล่าวอ้าง.. มากกว่านี้ไหม
ตอบลบนายณรงค์ วงศ์วรรณ พ่อเลี้ยง (เจ้าพ่อเชียงใหม่) ก็ถูกผลักดัน จนเกือบได้เป็นนายก ถ้าไม่ถูก CIA เปิดโปงเสียก่อน (ยังกะหนัง 007)
ลบไปต่อซิครับ รอไรอยากอ่านทั้ง2ฝ่าย
ตอบลบไม่อยากจะเชื้อเลยคัฟ แต่อ่านและวิเคาร์จริงๆ ก็มีทางเป็นไปได้อยู่ เพราะประเทศไทย จับยังไงก็ไม่หมด แล้วของกล้าไปไหนต่อ ก็ไม่รู้ ถ้ามีหลักฐานที่แน้นหนา และจริงแท้ เป็นความจริง 100% นี้นะ ประชาชนคนไทยจะทำยังไงกัน
ตอบลบตรวจสอบเส้นทางการเงิน และสอบปากคำชาวเขา
ลบแต่ก่อนกุคงไม่เชื่อ แต่ตอนนี้ บอกเลย.... มิน่าถึงได้รวยสุดในโลก
ตอบลบนิทานหลอกเด็ก. หลักฐานก็ไม่มี เขียนมาลอยๆแบบนี้ ไม่เช่ือจ้า
ตอบลบหลักฐานมีเพียบเลย (ถ้าจะวิเคราะห์ตาม) .. แต่การที่เราปิดใจ ย่อมปิดกั้นแสงสว่างแห่งความจริง ฉันใด!!
ลบย่อมเหมือนกับที่ แสงมิอาจ เล็ดลอดเข้ามาสู่ในกะลาที่คว่ำไว้อยู่ฉันนั้น
แอสโคบา รวยที่สุดในโลกยุคนึง รวยแล้วยังไม่เลิก เพราะเขามั่นใจในฐานะ และอำนาจ เกิดจากความไม่พอ ที่ไม่มีที่สิ่นสุดของมนุษย์ ตามหลักของนักจิตวิทยา มาส์โลว์
ตอบลบต่อจิ๊กซอร์ก็จะตาสว่างวาบๆ
ตอบลบผมว่าสำหรับคนที่ไม่เคยทราบเรื่องนี้มาก่อน แล้วเข้ามาอ่าน แทนที่คุณน่าจะคิดในมุมบวกก็คือการไปค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมเองว่าที่เค้าเขียนบทความอันนี้มันจริงหรือไม่ แล้วถ้าคุณหาข้อมูลเจอในมุมแย้งก็ค่อยมาพูดว่าไม่จริงจะดีกว่ามั้ย อีกอย่างผมมองว่าผู้เขียนบทความนี้ คงไม่มีเวลาว่างที่จะมาแต่งนิยายหรอก
ตอบลบได้ยินมาตั้งนานแล้ว และคนไทยหลายคนก็รู้แต่เงียบ ไม่มีอยากเอาเรื่องแบบนี้ออกมาพูด ทั้งที่มันเป็นเรื่องจริง
ตอบลบอ่านไปก็น่าคิด เนื่องจากว่า ร.9 ที่ว่าขึ้นไปบนดอยทำงานมาหลายปี แต่ทำไมเด็กดอยบอกว่าไม่รู้จักโทรทัศน์ ทั้งๆที่ขึ้นไปดูแลเองประมาน20ปีเป็นอย่างน้อย น่าคิดไหม
ตอบลบ