วันพุธที่ 13 กันยายน พ.ศ. 2560

บทความ: สถาบันกษัตริย์กับการค้ายาเสพติด ตอนที่ 5 ที่มาของเฮโรอีน Brand “บลูเมจิก (Blue Magic)”



                                                สถาบันกษัตริย์กับการค้ายาเสพติด
    



บทความโดย พิษณุ พรหมสร Anti

เผยแพร่ครั้งแรก                    30 กรกฎาคม 2557  ในชื่อหัวข้อ ”เส้นทางยาเสพติดของลุงสมชาย”   

แก้ไขอัพเดทเพิ่มเติมครั้งที่1.... 12  กันยายน 2560   ในชื่อหัวข้อ “สถาบันกษัตริย์กับการค้ายาเสพติด”


                                                               ตอนที่ 5                              

                                   ที่มาของเฮโรอีน Brand “บลูเมจิก (Blue Magic)”

        และในช่วงเวลาเดียวกันที่กลุ่มโกกั้ง ได้ส่งนายจิมมี่ หยาง เข้ามาประสานงานกับกษัตริย์ภูมิพล และกองพล 93 นี้เอง ได้เกิดสงครามเวียดนามโดยสหรัฐอเมริกาส่งทหารเข้าไปรบ โดยใช้ประเทศไทยเป็นที่ตั้งฐานทัพ 

สงครามเวียดนาม ในคศ. 1965
       ดังนั้นพวกขบวนการค้ายาเสพติดจึงเห็นช่องทางในการที่จะส่งเฮโรอีนเข้าสู่สหรัฐอเมริกาได้อย่างแนบเนียน โดยใช้สภาวะสงครามให้เป็นประโยชน์ กล่าวคือ.-  
      ในสงครามเวียดนาม เมื่อมีทหารอเมริกันตาย กองทัพสหรัฐจะส่งทุกศพที่เก็บได้ มายังประเทศไทย เพื่อให้ไทยส่งศพกลับไปยังสหรัฐอเมริกา โดยกองทัพสหรัฐจะประสานงานกับรัฐบาลและทหารไทยในทุกขั้นตอน
และจากจุดนี้เองจึงทำให้มีราชายาเสพติดอันดับหนึ่งของอเมริกาเกิดขึ้น โดยมีชื่อว่า แฟรงก์ ลูคัส (Frank Lucas) 

แฟรงก์ ลูคัส
         แรกเริ่มนั้น แฟรงก์ ลูคัส เป็นคนผิวสี ที่เคยเป็นเพียงคนขับรถ พอมาในช่วงสงครามเวียดนาม ลูคัส ได้ติดต่อกับญาติที่เป็นทหารอเมริกันในประเทศไทย โดยญาติคนนี้ของ ลูคัส ได้ร่วมมือกับทหารไทยในการค้าเฮโรอีนให้กับพวกทหารอเมริกันที่มาพักรบในไทยอยู่แล้ว โดย ลูคัส บอกให้ญาติ พาไปพบกับนายทหารชั้นสูงของไทย ที่ทำหน้าที่ประสานงานกับชนกลุ่มน้อยไทยใหญ่ ที่เชียงใหม่ เพื่อขอให้พาไปยังแหล่งผลิตเฮโรอีนที่สามเหลี่ยม ทองคำ ต่อมาทหารไทยก็พาไปพบกับขุนส่า ราชายาเสพติดชื่อกระฉ่อนโลกในยุคนั้น (ขุนส่าเป็นอาเจ้ายอดศึก  ซึ่งในปัจจุบันเจ้ายอดศึกได้เป็นผู้นำกลุ่มไทยใหญ่แทนขุนส่า) 

ขุนส่า หรือ จางซีฟู
         จากจุดนั้น แฟรงก์ ลูคัส จึงเป็นเจ้าพ่อค้ายาเสพติดผู้อื้อฉาวในทศวรรษที่ 70 เพราะเขาคือนักค้ายาที่ลงทุนบินมายังสามเหลี่ยมทองคำ เพื่อนำยาเสพติดไปขายที่อเมริกาโดยไม่ต้องผ่านนายหน้า ซึ่งทำให้เขาโด่งดังมาก จนต่อมา ได้มีผู้นำเอาเรื่องราวการค้าเฮโรอีนของเขาไปทำเป็นภาพยนตร์เรื่องอเมริกันแก๊งสเตอร์ โดยเดนเซล วอชิงตัน รับบทเป็น แฟรงก์ ลูคัส จนโด่งดัง

ภาพยนต์ "อเมริกันแกงสเตอร์ " โดย เดนเซล วอชิงตัน รับบทเป็น แฟรงก์ ลูคัส
        ซึ่งครึ่งหนึ่งของผู้ติดเฮโรอีนในสหรัฐอเมริกา อาศัยอยู่ในนิวยอร์ค และสามในสี่อยู่ในย่านฮาร์เล็ม  แฟรงก์ ลูคัส ได้สร้างการค้ายาแบบผูกขาด กล่าวคือ เป็นผู้ผลิต, ผู้ขาย และ ผู้จัดจำหน่ายทั้งหมด ด้วยวิธีควบคุมการนำเข้าจากสามเหลี่ยมทองคำ ในภูมิภาคเอเซียตะวันออกเฉียงใต้ และบรรจุหีบห่อ จากนั้นคือการจัดจำหน่าย จนกระทั่งได้ผลิตภัณฑ์ที่เป็น Brand ของตนเอง มีชื่อว่า “บลูเมจิก (Blue Magic)” จนทำให้ แฟรงก์ ลูคัส มีกำไรวันละกว่าล้านดอลล่าร์ 
      
         เมื่อร่ำรวย ลูคัสได้เปิดธุรกิจที่ถูกกฎหมายบังหน้า หลายธุรกิจ และลูคัส ยังได้ทำงานให้กับชุมชนโดยการสนับสนุนสิทธิมนุษยชน และให้เงินช่วยเหลือในการสร้างบ้านพักและที่อยู่อาศัยสำหรับคนจน  แม้จะมีชื่อเสียงในด้านผู้มีอิทธิพล แต่สังคมอเมริกันกลับให้การต้อนรับเขา ทั้งในวงของเจ้าหน้าที่ตำรวจ นักการเมือง ผู้นำกลุ่มต่างๆ รวมทั้งเหล่าคนดังทั้งหลาย

แฟรงก์ ลูคัส คนดังในสังคมอเมริกัน
        แต่สิ่งที่หน่วยสืบราชการลับ CIA สนใจ ไม่ใช่ความเป็นผู้มีอิทธิพลของ แฟรงก์ ลูคัส (Frank Lucas) แต่เป็นวิธีการนำเฮโรอีนเข้าสู่สหรัฐเมริกาต่างหากที CIA สนใจ เพราะในช่วงนั้น ทางการสหรัฐและหน่วยสืบราชการลับ CIA สงสัยว่า แฟรงก์ ลูคัส เอาเฮโรอีนจำนวนมากมาจากไหน? เขานำเฮโรอีน”จำนวนมหาศาล”เข้าสู่สหรัฐไปได้อย่างไร? มีใคร? และผู้ยิ่งใหญ่ที่ไหน? คอยช่วยให้เหลือ

        ต่อมาความน่าสงสัยของ CIA ก็กระจ่าง เมื่อ แฟรงก์ ลูคัส ถูกตำรวจสหรัฐจับเข้าคุก เขาจึงเปิดเผยเรื่องราวในเบื้องหลังทั้งหมดว่าเขานำเฮโรอีนจากสามเหลี่ยมทองคำเข้ามาไทย และนำเข้าสู่สหรัฐได้อย่างไร แต่รายละเอียดที่ แฟรงก์ ลูคัส ได้เปิดเผยออกมานั้น ทาง CIA ได้เก็บเรื่องนี้ไว้เป็นความลับ เพราะในช่วงนั้น ถึงแม้ว่าประธานาธิบดี ริชาร์ด เอ็ม. นิกสัน จะประกาศก้องว่าศัตรูที่สำคัญที่สุดของสหรัฐคือ ยาเสพติด ก็ตาม แต่นโยบายของสหรัฐในยุคนั้น มีความจำเป็นที่จะต้องสนับสนุนกษัตริย์ภูมิพล เพื่อให้หยุดการแพร่กระจายของระบอบคอมมิวนิสต์ จึงทำให้สหรัฐอเมริกาจำต้องปิดเรื่องนี้ไว้เป็นความลับ

         และถึงแม้ว่า CIA จะเก็บผลการสอบสวน แฟรงก์ ลูคัส ไว้เป็นความลับก็ตาม แต่การที่สหรัฐอเมริกาเป็นประเทศเสรี จึงทำให้ต่อมาได้มีเจ้าหน้าที่ของ CIA บางคน นำบางส่วนในการสอบสวน แฟลงก์ ลูคัส มาเปิดเผย โดยสรุปได้ว่า แฟรงก์ ลูคัส ได้การขนเฮโรอีนจากสามเหลี่ยมทองคำ โดยทหารไทยให้ความร่วมมือเป็นอย่างดีในทุกขั้นตอนของการขนส่ง โดยเอาเฮโรอีนมาพักไว้ที่บ้านพักทหาร ภายในสนามบินอู่ตะเภา

สนามบิน อู่ตะเภา
         จากนั้น ทหารไทยก็เป็นคนจัดการในเรื่องการต่อโลงศพชนิดพิเศษ โดยในพื้นล่างของโลงศพนับหมื่นโลง ที่ทหารไทยได้จัดการให้ต่อขึ้นนั้น ได้จัดทำชั้นพิเศษไว้สำหรับบรรจุเฮโรอีน   

       เมื่อความจริงได้เปิดเผยออกมา ก็เป็นที่น่าตกใจ เพราะรัฐบาลสหรัฐอเมริกาได้ทำการสำรวจทหารอเมริกันที่ เสียชีวิตในสงครามเวียดนาม ปรากฎว่ามีจำนวนมากถึง 58,000 นาย โดยศพเกือบทั้งหมดได้ถูกลำเลียงมาที่ประเทศไทย ก่อนที่จะถูกส่งกลับไปยังสหรัฐ อย่างน้อยต้องมีมากกว่าครึ่งหนึ่งของศพที่ได้ถูกส่งกลับไปพร้อม กับเฮโรอีน 

ทุกโลงศพถูกบรรจุด้วยเฮโรอีน
          จากข้อสงสัยที่ว่า ถ้า แฟรงก์ ลูคัส ไม่ได้รับความช่วยเหลือจากสถาบันชั้นสูง และจากความร่วมมือของทหารไทยแล้ว เฮโรอีนจำนวนมหาศาลก็ไม่มีทางที่จะนำเข้าสู่สหรัฐได้  

     ดังนั้นคำว่า BLUE MAGIC จะเกี่ยวข้องกับสถาบันกษัตริย์ภูมิพลหรือไม่ นอกจาก แฟรงก์ ลูคัส กับ CIA ที่รู้อย่างแน่ชัดแล้ว คนไทยทั้งประเทศและคนทั้งโลกก็อยากจะรู้เช่นกันว่า ความจริงในเรื่องนี้จะถูกเปิดเผยออกมาเมื่อไหร่?

  ..มีต่อตอนที่ 6














ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

                                            สิ่งปนเปื้อนในพุทธศาสนา พุทธโควิท บทความโดย: นายพิษณุ พรหมสร เผยแพร่: 4 กุมภาพันธ์ 2566 ถ้าบอกตั...