สถาบันกษัตริย์กับการค้ายาเสพติด
เผยแพร่ครั้งแรก 30 กรกฎาคม 2557
ในชื่อหัวข้อ ”เส้นทางยาเสพติดของลุงสมชาย”
แก้ไขอัพเดทเพิ่มเติมครั้งที่1....
12 กันยายน 2560 ในชื่อหัวข้อ
“สถาบันกษัตริย์กับการค้ายาเสพติด”
แหล่งที่มาของยาเสพติด และการเข้ามาของกองพล 93
แหล่งผลิตของยาเสพติด และการเข้ามาของกองพล 93 ในทางตอนเหนือของไทย ทั้งสองสิ่งนี้ เป็นมูลเหตุและปัจจัยสำคัญที่ทำให้ครอบครัวภูมิพลสามารถใช้โอกาสและจังหวะ รวมทั้งอิทธิพลของบารมีของตนเอง นำทางเข้าไปสู่ขบวนการค้ายาเสพติดได้อย่างแนบเนียน
แหล่งผลิตยาเสพติดที่ดีที่สุดของโลก ส่วนใหญ่ถูกผลิตที่เมืองยอน ในรัฐฉานของพม่า ที่มีชายแดนติดกับมณฑลยูนานของจีน พวกนี้ก็คือพวกว้าแดง โดยใช้เมืองยอนเป็นแหล่งผลิต โดยพื้นที่นี้ เป็นดินแดนที่มีความอุดมสมบูรณ์ ทั้งสภาพดินและลมฟ้าอากาศ ทำให้เหมาะในการการปลูกฝิ่น โดยพวกปลูกฝิ่นจะเรียกตัวเองว่าเป็นพวกโกกั้ง หรือ เจิ้งคัง เป็นพวกชาวจีนที่อพยพมาตั้งถิ่นฐานในรัฐฉานของพม่า ซึ่งคำว่าโกกั้ง มีความหมายว่า เป็นดินแดนที่มี 9 ดอย หรือมีดอย 9 ยอด มีแม่น้ำธิงหล่อเลี้ยง มีหลายชนเผ่าอาศัยอยู่ ชาวโกกั้งประกอบด้วย คนจีน ลีซอ ละหยู (มูเซอร์) ปะหล่อง อีก้อ (อาข่า อาหนี อยู่ที่เมืองลา) และไต
ซึ่งในปัจจุบันแหล่งผลิตยาเสพติดได้มีการขยายเป็นวงกว้างในประเทศเพื่อนบ้านและตามแนวชายแดนของ ประเทศไทย ซึ่งพอจะสรุปได้ดังนี้.-
ในประเทศพม่าสถานะของชนกลุ่มน้อยได้ถูกแบ่งเป็น 2 กลุ่มใหญ่ คือ 1.กลุ่มที่เจรจาหยุดยิง และ 2. กลุ่มที่กำลังเจรจา โดยกลุ่มที่ 2 ต้องการความเปลี่ยนแปลงทางการเมือง
ในประเทศไทยสถาบันกษัตริย์ต้องการดึงชนกลุ่มน้อยต่างๆ ที่มีอิทธิพลอยู่ตามชายแดนไทย-พม่า เอามา เป็นพวก เพราะต้องการให้ชนกลุ่มน้อยพวกนี้ทำหน้าที่ เป็น “รัฐกันชน” มาตั้งแต่ครั้งอดีตจนถึงปัจจุบัน ซึ่งมี กลุ่มใหญ่ๆอยู่ทั้งหมด 4 กลุ่ม ได้แก่.
1.กลุ่มโกกั้ง MNDAA (โลซิงฮัน) มีศูนย์กลางอำนาจที่ เมืองลาเฉียว มี นาย เผิงจาเซิง เป็นผู้นำ
เผิงจาเซิง ผู้นำโกกั้ง MNDAA |
หลินหมิงเสียน หรือเจ้าจายลึน ผู้นำกลุ่มพันธมิตรโกกั้ง NDAA เมืองลา |
จางซีฟู หรือ ขุนส่า |
พลโทเจ้ายอดศึกเป็นผู้นำกองทัพรัฐฉานภาคใต้ (Shan State Army - South (ชื่อย่อ : SSA)ปัจจุบัน ดำรงตำแหน่ง ประธานสภาเพื่อการกอบกู้รัฐฉาน(R.C.S.S.) เป็นหัวหน้ากองกำลังกู้ชาติไทใหญ่ต่อต้านกองทัพพม่าจนถึงปัจจุบัน
เจ้ายอดศึก |
อันดับ.1 คือ กลุ่มโกกั้ง ซึ่งปัจจุบันมี นาย เผิงจาเซิง เป็นผู้นำ มีโรงงานผลิตสำคัญในเขตปกครองพิเศษ 1 ติดกับเมืองปางซาง และที่โขงโค้ง ต.เชียงราบ จังหวัดท่าขี้เหล็ก และยังเชื่อมโยงกับผู้นำเมืองลา เจ้าจายลืน นาย หลิน หมิ่ง เสียน ผู้นำสูงสุดของ NDAA ศูนย์บัญชาการใหญ่ของกองกำลังพันธมิตรชาติประชาธิปไตย NDAA หรือ กลุ่มหยุดยิงเมืองลา อยู่ในภาคตะวันออกของรัฐฉาน ซึ่งมีฐานะเป็นลูกเขยของนาย เผิงจาเซิง ที่อยู่ในเขตปกครองพิเศษ 4 เมืองลา ซึ่งทั้ง 2 แห่งนี้ใช้พื้นที่ในเขตอิทธิพล ทั้งเมืองปางซาง เมืองลา และเมืองทา ผลิต ยาเสพติด
อันดับ. 2 คือ กลุ่มว้าแดง
และกองกำลังติดอาวุธพม่า ภายใต้การนำของ 3 พี่น้องตระกูลเหว่ย ทั้งเหว่ย เซียะ กัง - เหว่ย เซียะ หลง และ เหว่ย เซียะ
หยิง
ซึ่งรายได้ของกลุ่มนี้ยังนำไปพัฒนาขีดความสามารถด้านการทหารของกองกำลังติดอาวุธ
ในเขตภาคใต้ของรัฐฉาน โดยเฉพาะที่เมืองยอน โดยกลุ่มนี้จะใช้เครือข่ายธุรกิจ ตามแนวแม่น้ำโขง โดยเฉพาะบ่อนพนันเป็นสถานที่เจรจาซื้อขายและส่งมอบยาเสพติดโดยมีเส้นทางลำเลียงที่ สำคัญอยู่ 2
เส้นทาง คือจากหมู่บ้านป่าซาง ผ่านหมู่บ้านลา แล้วลงเรือที่ท่าเรือสบหรวย
จากนั้นก็ล่องไปตามแม่น้ำโขง โดย
มีนักธุรกิจชาวจีนที่เข้ามาทำธุรกิจสีเทาบริเวณชายแดน
จะทำหน้าที่เป็นตัวเชื่อมระหว่างกลุ่ม
ผู้ผลิตกับเอเย่นต์รายใหญ่ โดยมีบ่อยครั้งที่กลุ่มนี้
อาศัยเรือสินค้าที่ขนถ่ายสินค้าอยู่ในแม่น้ำโขง ลำเลียงยาเสพติดจากแหล่งผลิตมาส่งมอบให้ลูกค้าในประเทศไทย
การเข้าสู่ประเทศไทยของกองพล 93
ในช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 เมื่อพรรค ก๊กมินตั๋ง ที่นำโดยจอมพล เจียงไคเช็ค ได้พ่ายแพ้ต่อ พรรคคอมมิวนิสต์จีนที่นำโดยประธาน เหมาเจ๋อตง จึงได้ถอยทัพไปตั้งรัฐบาลใหม่ยังเกาะฟอร์โมซา (ประเทศไต้หวันในปัจจุบัน) ซึ่งในการถอนร่นนั้น เจียงไคเช็ค ได้วางกำลังของตนเองไว้ที่มณฑลยูนาน 2 กองทัพด้วยกันคือ กองทัพที่ 8 และกองทัพที่ 26 ซึ่งแต่ละกองทัพประกอบด้วย 2 กองพล โดยที่กองพล 93 เป็นหน่วยหนึ่งที่ขึ้นตรง ต่อกองทัพที่ 26 ทำหน้าที่ดูแลพื้นที่ดังกล่าวไว้ เพื่อป้องกันไม่ให้กองกำลังคอมมิวนิสต์ของเหมาเจ๋อตงไล่ตาม กองกำลังที่เคลื่อนย้ายไปยังเกาะฟอร์โมซาได้ทัน
ในเวลาต่อมากองทัพที่ 8 และกองทัพที่ 26ได้ถูกกองทัพของฝ่ายพรรคคอมมิวนิสต์ตีแตกพ่ายและถอยลง มายังพื้นที่พม่าตอนบนใกล้กับพรมแดนมณฑลยูนานของจีน กองทัพที่ 26 ได้ถูกกองกำลังของจีนคอมมิวนิสต์ตี แตกพ่ายอีกครั้งและได้ถอยร่นไปยังลาวและเวียดนาม อีกส่วนก็ถอยเข้ามายังรัฐฉานของประเทศพม่า ผ่านทางรัฐ ฉานด้านเมืองเชียงตุง แล้วผ่านมาทางขี้เหล็กของประเทศไทย โดยมีกองกำลังนับหมื่นคน ซึ่งจำนวนทหารที่อยู่ใน ส่วนนี้ ส่วนใหญ่แล้วเป็นกำลังพลที่มาจากหน่วยกองพล 93
ในขณะที่รัฐบาลพม่าในปี 2504 ได้ดำเนินการปราบปรามกองกำลังทหารจีนพลัดถิ่นเหล่านี้อย่างจริงจัง ทำ ให้กองกำลังของนายพลหลี่ หมี แตกพ่าย โดยกองทัพที่ 1, 2 และ 4 จำนวน 4,349 คน ของนายพลหลี่ หมี ได้ถูกรัฐบาลพม่าจับตัวส่งตัวกลับไปไต้หวัน คงเหลือแต่กองทัพที่ 3 ของนายพลหลี่เหวินฝาน และกองทัพที่ 5 ของนายพล ต้วน ซี เหวิน โดยนายพลทั้ง 2 ไม่ไม่ต้องการกลับไปไต้หวัน จึงได้นำกำลังที่เหลืออพยพหนีการกวาดล้างของพม่าเข้าสู่ภาคเหนือของประเทศไทย โดยไต้หวันประกาศจะไม่สนับสนุนช่วยเหลือกองกำลังที่ตกค้าง เหล่านี้อีก
นายพล ต้วน ซี เหวิน |
สหรัฐอเมริกาให้การสนับสนุนกองทัพที่แตกพ่ายโดยขอความร่วมมือจากกษัตริย์ภูมิพล
ณ เวลานั้น เป็นเวลาเดียวกันที่สหรัฐอเมริกามีความวิตกกังวลต่อสถานการณ์การแพร่กระจายของระบอบ คอมมิวนิสต์ ด้วยเหตุนี้สหรัฐอเมริกาจึงต้องการสร้างแนวยับยั้งคอมมิวนิสต์จากทิเบตถึงประเทศไทย ดังนั้นสหรัฐ จึงได้สนับสนุนกลุ่มทหารแตกทัพเหล่านี้ รวมทั้งยังขอความร่วมมือไปยังกษัตริย์ภูมิพล และรัฐบาลไทยให้ สนับสนุนทหารกองพล 93 ของเจียงไคเช็ค ซึ่งเหลือตกค้างอยู่ในประเทศไทยประมาณ 3 หมื่นนายด้วย ซึ่งกษัตริย์ภูมิพลก็ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี
ด้วยเหตุนี้ จึงทำให้ต่อมากษัตริย์ภูมิพลมีความสนิทสนม กับ นายพลต้วน ซี เหวิน
ผู้นำกองพล93
เป็นกรณีพิเศษ
และต่อมาในหมู่บ้านของกองกำลังทหารจีนคณะชาติที่ตกค้างนั้น
มีการตั้งโรงเรียนการสอนภาษาจีนที่ดอยแม่สะลอง ต่อมากองบัญชาการทหารสูงสุดของไทย
โดยการสนับสนุนของกษัตริย์ภูมิพล ได้เสนอให้สัญชาติไทยแก่บุคคลเหล่านี้ โดยมีการจัดตั้งคณะกรรมการขึ้นเพื่อพิจารณาให้สัญชาติแก่อดีตทหารจีนคณะชาติเหล่านี้
ซึ่งพิจารณาในพื้นที่บางส่วนเช่น บ้านเปียงหลวง บ้านถ้ำง็อบ
อยู่ในจังหวัดเชียงใหม่ พื้นที่บนดอยแม่สะลอง บ้านแม่แอบ บ้านผาตั้ง
จังหวัดเชียงราย ส่วนที่บ้านหัวลาง และบ้านนาป่าแปก จังหวัดแม่ฮ่องสอน โดยสถานที่เหล่านี้กลายเป็นหมู่บ้านที่อยู่อาศัยของอดีตกองทหารจีนคณะชาติ
หรือกองพล 93 และจีนฮ่ออพยพ ในปัจจุบัน
นายพล ต้วนซีเหวิน หรือต่อมาเป็นนายชีวัน คำลือ |
กองพล 93 เริ่มติดต่อกับกลุ่มโกกั้งในพม่า
เมื่อกองพล 93 ได้เข้ามาอยู่ในพื้นที่ที่เหมาะสมสำหรับการปลุกฝิ่นในประเทศไทย และอาศัยที่เป็นคนจีนด้วยกันจึงได้ ประสานงานกับกลุ่มโกกั้งที่อยู่ในรัฐฉานหรือที่เรียกว่ารัฐว้าของพม่า โดยที่ทหารของกองพล 93 ในขณะนั้น ยังไม่มีอาชีพอื่นใด จึงทำให้ในช่วงแรก กองพล 93 ดำรงชีวิตด้วยการรับจ้างกลุ่มโกกั้งลำเลียงขนฝิ่นและเฮโรอีนเข้าสู่ประเทศไทย รวมทั้งการตั้งด่านภาษีเถื่อนและการค้าอาวุธสงคราม
กษัตริย์ภูมิพลเห็นช่องทางในการค้ายาเสพติด
เมื่อสถานการณ์หลายอย่างเอื้ออำนวย จึงทำให้กษัตริย์ภูมิพลและพระชนนีศรีสังวาล ที่อยากจะค้ามอร์ฟีนมาแต่แรกแล้ว จึงได้ใช้สถานการณ์ที่สหรัฐอเมริกาสนับสนุนให้มีการต่อต้านระบอบคอมมิวนิสต์ และการที่มีกองพล 93 ที่กำลังร่วมมือกับกลุ่มโกกั้งได้เข้ามาอยู่ในความดูแลของไทย เป็นช่องทางในการที่จะหาเงินมาสร้างฐานอำนาจให้ตัวเอง
ซึ่งในช่วงนั้นกลุ่มโกกั้งได้ส่งคนของตัวเองชื่อนายจิมมี่ หยาง มาสร้างโรงแรมขึ้นในจังหวัดเชียงใหม่ในปีพ.ศ. 2512 ชื่อโรงแรมรินคำ โดยนายจิมมี่ หยาง เป็นผู้บริหารเอง
โรงแรมรินคำ |
โรงพยาบาลแมคคอร์มิค เชียงใหม่ |
ถึงแม้ว่าต่อมาทั้งโรงแรมรินคำและโรงพยาบาลแมคคอร์มิคที่เชียงใหม่จะไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการค้ามอร์ฟีนแล้วก็ตาม แต่กษัตริย์ภูมิพลและเครือข่ายก็ยังมีการต่อยอด โดยการหันไปใช้ศูนย์ชาวเขาในโครงการหลวงที่ดอยตุง และศูนย์วิจัยฝิ่นที่สามเหลี่ยมทองคำ ในจังหวัดเชียงรายบังหน้า โดยให้เป็นทั้งศูนย์ประสานงาน และเป็นแหล่งสกัดเฮโรอีนและสารเสพติดอื่นๆ อีกด้วย
(ในอดีตยาเสพติดจะถูกส่งเข้ากรุงเทพฯโดยรถยนต์ของทหารเป็นส่วนใหญ่ แต่ในปัจจุบันรถยนต์ของกองทัพภาคที่ 3 เอามาใช้ขนยาเสพติดน้อยลง แต่จะใช้รถขนส่งที่ติดป้ายและโลโก้ของโครงการหลวงเป็นส่วนใหญ่ โดยจะถูกส่งมาพร้อมกับผลิตภัณฑ์ในโครงการหลวง)
..มีต่อตอนที่ 5
รถยนต์ขนส่งโครงการหลวง |
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น